คู่มือฉบับสมบูรณ์ ลูกขัดสก็อตไบรท์ คืออะไร? เลือกสี/เบอร์อย่างไร | เคียมเฮง

ในโลกของการขัดผิววัสดุ (Surface Finishing) ไม่ว่าจะเป็นงานโลหะหรืออโลหะ ช่างฝีมือและโรงงานอุตสาหกรรมต่างรู้ดีว่า “ผลลัพธ์สุดท้าย” (The Finish) คือตัวตัดสินคุณภาพของชิ้นงาน การขัดเงาไม่ได้มีเพียงการใช้ยาขัดกับลูกขัดผ้า หรือการใช้กระดาษทรายขัดลบรอยหยาบเท่านั้น แต่ยังมีขั้นตอน “ระหว่างกลาง” ที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งก็คือการ “เตรียมผิว” และ “การสร้างผิวสัมผัส” (Texture)

ในขั้นตอนนี้เองที่ ลูกขัดสก็อตไบรท์ (Non-Woven Abrasive Wheel) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญและกลายเป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้ในกล่องเครื่องมือของช่างมืออาชีพ

หลายคนอาจคุ้นเคยกับแผ่นสก็อตไบรท์สำหรับล้างจาน แต่ในวงการช่าง ลูกขัดสก็อตไบรท์ คืออุปกรณ์ขัดประสิทธิภาพสูงที่มีโครงสร้างซับซ้อนและหลากหลายกว่ามาก มันคือ “ตัวแปร” ที่กำหนดว่าผิวสแตนเลสของคุณจะออกมาเป็น “ลายซาติน” (Satin Finish) ที่สวยงาม หรือผิวอลูมิเนียมของคุณจะถูก “ลบครีบ” (Deburring) ได้อย่างนุ่มนวลโดยไม่เสียรูปทรง

แต่ความท้าทายคืออะไร? ความท้าทายคือความหลากหลายของมัน ทั้งสี ทั้งเบอร์ความหยาบ และชนิดของเส้นใย การเลือกใช้ผิด ไม่เพียงแต่จะทำให้งานไม่เสร็จ แต่ยังอาจทำลายชิ้นงานราคาแพงได้

ในฐานะ เคียมเฮง ผู้เชี่ยวชาญและตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ขัดเงาโลหะและอโลหะครบวงจร เราจึงได้จัดทำคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ขึ้น เพื่อเจาะลึกทุกแง่มุมของ ลูกขัดสก็อตไบรท์ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐาน, การถอดรหัสสี, เทคนิคการใช้งาน ไปจนถึงการเลือกซื้อให้เหมาะกับงานของคุณ

“ลูกขัดสก็อตไบรท์” คืออะไร? (เจาะลึกโครงสร้างและหลักการทำงาน)

ก่อนที่เราจะไปถึงเทคนิคการใช้งาน เราต้องเข้าใจ “กายวิภาค” ของมันก่อน

ลูกขัดสก็อตไบรท์ มีชื่อเรียกทางเทคนิคว่า “ล้อขัดใยสังเคราะห์อัด” (Non-Woven Abrasive Wheel) คำว่า “Non-Woven” (ไม่ถักทอ) คือหัวใจสำคัญ มันไม่ได้ถูก “ทอ” เหมือนผ้า แต่เกิดจากการนำ “เส้นใยสังเคราะห์” (Nylon Fibers หรือใยไนลอน) มาสุ่มเรียงตัวกันเป็นโครงสร้าง 3 มิติ (3D Web Structure) แล้วยึดติดเข้าด้วยกันด้วย “กาวเรซิ่น” (Resin) ชนิดพิเศษ

ในระหว่างกระบวนการผลิต “เม็ดทรายขัด” (Abrasive Grains) คุณภาพสูง จะถูกฝังและกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอไปทั่วทั้งโครงสร้างเส้นใยนั้น

องค์ประกอบหลัก 3 ส่วนของ ลูกขัดสก็อตไบรท์

  1. เส้นใยสังเคราะห์ (Nylon Fibers) ทำหน้าที่เป็น “โครง” (Backing) ที่มีความเหนียว ยืดหยุ่น และทนทานต่อการฉีกขาด
  2. กาวเรซิ่น (Resin Binder) ทำหน้าที่เป็น “กาว” ยึดเส้นใยและเม็ดทรายขัดเข้าไว้ด้วยกัน กาวนี้จะค่อยๆ สึกออกไปพร้อมกับการใช้งาน เพื่อเผยเม็ดทรายขัดใหม่ที่อยู่ด้านใน
  3. เม็ดทรายขัด (Abrasive Grains) นี่คือ “ฟัน” ที่ใช้ในการขัด เม็ดทรายที่นิยมใช้มี 2 ประเภทหลัก:
    • อลูมิเนียม ออกไซด์ (Aluminum Oxide – AO): เป็นเม็ดทรายมาตรฐานที่คมและทนทาน เหมาะสำหรับงานขัดทั่วไปบนโลหะหลายชนิด รวมถึงไม้และพลาสติก
    • ซิลิคอน คาร์ไบด์ (Silicon Carbide – SC): มีความคมสูงกว่า AO มักใช้ในเบอร์ที่ละเอียดมาก (Fine Grits) เหมาะสำหรับงานขัดเงา หรือขัดวัสดุที่แข็งน้อยกว่า เช่น อลูมิเนียม ทองเหลือง หรือแก้ว

หลักการทำงาน ทำไมถึง “ขัด” แต่ “ไม่กินลึก”

ความมหัศจรรย์ของ ลูกขัดสก็อตไบรท์ อยู่ที่โครงสร้าง 3 มิติของมัน ซึ่งทำงานเหมือน “สปริง” นับล้านตัว

ในขณะที่กระดาษทรายจะ “ขูด” ผิววัสดุออกไปตรงๆ แต่ลูกขัดสก็อตไบรท์จะมีความ “ยืดหยุ่น” (Flexible) เมื่อเรากดลูกขัดลงบนชิ้นงาน เส้นใยไนลอนจะยุบตัวและโอบรับไปตามส่วนโค้งเว้าของชิ้นงาน (Conformability) ทำให้แรงกดกระจายตัวอย่างนุ่มนวล

ผลลัพธ์คือ มันสามารถ “ลบรอย” “ทำความสะอาด” หรือ “สร้างลาย” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ “กินเนื้อ” วัสดุ หรือ “เปลี่ยนรูปทรง” ของชิ้นงาน (No change in workpiece geometry) เหมือนที่ล้อหินเจียรทำ

นอกจากนี้ โครงสร้างที่โปร่ง (Open-Web Structure) ยังช่วย “ระบายความร้อน” (Heat Dissipation) และ “สลัดเศษฝุ่น” (Resists Loading) ได้ดีเยี่ยม ทำให้ไม่อุดตันง่าย และขัดงานได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า

เปรียบเทียบ ลูกขัดสก็อตไบรท์ กับอุปกรณ์ขัดประเภทอื่น

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่า ลูกขัดสก็อตไบรท์ อยู่จุดไหนของกระบวนการขัดเงา ที่ เคียมเฮง เราขอเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ขัดยอดนิยมอื่นๆ ดังนี้

อุปกรณ์ขัด

ลูกขัดสก็อตไบรท์ (Non-Woven)

ล้อกระดาษทราย (Flap Disc/Wheel)

ลูกขัดผ้า (Buffing Wheel)

ล้อหินเจียร (Grinding Wheel)

หน้าที่หลัก

เตรียมผิว, ลบครีบ, สร้างลายซาติน

ขัดลบรอยหยาบ, ขัดแนวเชื่อม

ขัดเงาขั้นสุดท้าย (Mirror Finish)

ขัดลบรอยลึก, เจียรเนื้อโลหะ

การกินเนื้อ

ต่ำ – ปานกลาง

ปานกลาง – สูง

ต่ำมาก (ต้องใช้ยาขัด)

สูงมาก

ผลลัพธ์ผิว

ผิวด้าน, ลายซาติน, ผิวเรียบ

ผิวเรียบ (มีรอยหยาบตามเบอร์)

ผิวเงาเหมือนกระจก

ผิวหยาบมาก (ต้องขัดต่อ)

ความยืดหยุ่น

สูง (เข้าโค้งได้ดี)

ปานกลาง

สูงมาก

ไม่มี (แข็ง)

การอุดตัน

ต่ำ (ไม่อุดตันง่าย)

ปานกลาง (อุดตันได้)

สูง (อุดตันด้วยยาขัด)

ต่ำ

สรุปโดย เคียมเฮง

  • ห้ามใช้ ลูกขัดสก็อตไบรท์ เพื่อ “เจียร” ลบรอยเชื่อมหนาๆ (นั่นคืองานของล้อหินเจียร หรือ Flap Disc หยาบๆ)
  • ห้ามใช้ ลูกขัดสก็อตไบรท์ เพื่อ “ขัดเงาเป็นกระจก” (นั่นคืองานของลูกขัดผ้าและยาขัดเงา)
  • ต้องใช้ ลูกขัดสก็อตไบรท์ เมื่องานของคุณคือการ “ลบรอยตื้น”, “ลบครีบคม”, “ขัดผิวหมอง”, หรือที่สำคัญที่สุดคือ “สร้างลายซาติน/แฮร์ไลน์”

ถอดรหัส “สี” และ “ความหยาบ” ของลูกขัดสก็อตไบรท์ (เลือกอย่างไรให้ถูกงาน)

นี่คือส่วนที่คนสับสนมากที่สุด “ทำไมมีหลายสีจัง?” “สีไหนหยาบ สีไหนละเอียด?”

สีของ ลูกขัดสก็อตไบรท์ ไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงาม แต่เป็น “โค้ด” (Color Code) ที่ผู้ผลิตใช้เพื่อบ่งบอก “ระดับความหยาบ-ละเอียด” (Grit) และ “ประเภทของเม็ดทราย” โดยประมาณ แม้ว่าแต่ละแบรนด์อาจมีโทนสีต่างกันเล็กน้อย แต่โดยมาตรฐานอุตสาหกรรม มักจะแบ่งได้ดังนี้

  1. กลุ่มขัดหยาบ (Coarse Grits) – (ประมาณเบอร์ 60 – 100)
  • สีที่พบบ่อย: สีน้ำตาลเข้ม (Brown), สีดำ (Black), สีเทาเข้ม (Dark Grey)
  • เม็ดทราย: อลูมิเนียม ออกไซด์ ชนิดหยาบ
  • การใช้งาน:
    • ลบครีบหนัก (Heavy Deburring): ลบส่วนเกินคมๆ จากการตัดหรือหล่อโลหะ
    • ลบรอยเชื่อม (Weld Blending): ขัดแนวเชื่อมให้เรียบเนียน (หลังจากเจียรส่วนเกินออกแล้ว)
    • ขจัดสนิมหนัก (Heavy Rust Removal) / ลอกสี: ใช้สำหรับงานปรับสภาพผิวที่เสียหายมาก
  1. กลุ่มขัดปานกลาง (Medium Grits) – (ประมาณเบอร์ 120 – 180)
  • สีที่พบบ่อย: สีแดง (Red), สีเลือดหมู (Maroon)
  • เม็ดทราย: อลูมิเนียม ออกไซด์
  • การใช้งาน:
    • นี่คือเบอร์ที่ “อเนกประสงค์ที่สุด” และขายดีที่สุด
    • สร้างลายซาติน/แฮร์ไลน์ (Satin Finish): เป็นเบอร์มาตรฐานสำหรับการสร้างลายขนแมวบนสแตนเลส
    • เตรียมผิว (Surface Prep): ขัดผิวก่อนการพ่นสี, ชุบ, หรือทากาว
    • ลบรอยขีดข่วนทั่วไป: ลบรอยที่เกิดจากการใช้งาน
  1. กลุ่มขัดละเอียด (Fine Grits) – (ประมาณเบอร์ 240 – 320)
  • สีที่พบบ่อย: สีฟ้า (Blue), สีเขียว (Green)
  • เม็ดทราย: อลูมิเนียม ออกไซด์ หรือ ซิลิคอน คาร์ไบด์
  • การใช้งาน:
    • สร้างลายซาตินที่เนียนขึ้น (Finer Satin Finish): ให้ลายเส้นที่ละเอียดและนุ่มนวลกว่าสีแดง
    • ขัดทำความสะอาด (Cleaning): ขัดคราบออกไซด์ หรือคราบหมองบนอลูมิเนียมหรือทองเหลือง
    • ลบรอยขนแมว (Light Scratch Removal):
  1. กลุ่มขัดละเอียดมาก (Very Fine / Ultra Fine) – (ประมาณเบอร์ 400 – 1000+)
  • สีที่พบบ่อย: สีเทาอ่อน (Light Grey), สีขาว (White)
  • เม็ดทราย: ซิลิคอน คาร์ไบด์ ชนิดละเอียดมาก (หรือบางครั้งไม่มีเม็ดทรายเลย แต่ใช้สำหรับปัดเงา)
  • การใช้งาน:
    • ขัดผสมผสาน (Blending): ใช้ขัดในขั้นตอนสุดท้ายเพื่อ “เกลี่ย” ผิวที่เกิดจากการขัดขั้นตอนก่อนหน้าให้ดูกลมกลืน (Blend)
    • ขัดเงา (Light Polishing): ใช้ร่วมกับยาขัด (Compound) ในบางกรณี เพื่อเพิ่มความเงา (Luster) ก่อนการขัดเงาจริงด้วยลูกขัดผ้า
    • ขัดทำความสะอาดชิ้นงานที่บอบบาง

คำแนะนำจาก เคียมเฮง: “อย่าจำแค่สี ให้ดูที่ ‘เบอร์’ (Grit) หรือ ‘ความละเอียด’ (Grade) ที่ระบุบนผลิตภัณฑ์เป็นหลัก แต่ถ้าไม่แน่ใจ ให้เริ่มต้นด้วยเบอร์ที่ละเอียดที่สุดที่คิดว่าจะขัดออก แล้วค่อยๆ ไล่ไปเบอร์ที่หยาบขึ้นหากจำเป็น การเริ่มต้นด้วยเบอร์หยาบเกินไปอาจทำลายชิ้นงานได้”

การประยุกต์ใช้งาน (Applications) กับวัสดุประเภทต่างๆ

ลูกขัดสก็อตไบรท์ มีความอเนกประสงค์สูงมาก สามารถใช้งานได้ทั้งกับโลหะและอโลหะ

การใช้งานกับ “โลหะ” (Metals)

นี่คืองานถนัดที่สุดของลูกขัดสก็อตไบรท์

  • สแตนเลส (Stainless Steel)
    • งานสร้างลายซาติน/แฮร์ไลน์: นี่คืองานที่ “ต้องใช้” ลูกขัดสก็อตไบรท์ โดยใช้เบอร์กลาง (เช่น สีแดง) ขัดไปในทิศทางเดียวอย่างสม่ำเสมอ เป็นที่นิยมในงานผลิตเฟอร์นิเจอร์, เครื่องครัว, หรือราวบันไดสแตนเลส
    • ลบรอยเชื่อม: หลังจากใช้หินเจียรหรือ Flap Disc ลบรอยนูนของแนวเชื่อมแล้ว จะเกิดรอยหยาบ ให้ใช้ลูกขัดสก็อตไบรท์เบอร์หยาบ (เช่น สีน้ำตาล) ขัดเพื่อปรับผิว ตามด้วยเบอร์ละเอียด (เช่น สีแดง) เพื่อสร้างลายให้กลมกลืนกับผิวเดิม
    • ลบรอยขีดข่วน: ใช้เบอร์ละเอียดขัดเพื่อลบรอยขนแมว
  • อลูมิเนียม (Aluminum)
    • ลบครีบ (Deburring): อลูมิเนียมเป็นโลหะอ่อน การลบครีบด้วยเครื่องมือที่แข็งเกินไปจะทำให้ชิ้นงานเสียรูป ลูกขัดสก็อตไบรท์ที่มีความนุ่มนวลจึงเหมาะที่สุด
    • ขัดผิวหมอง/คราบออกไซด์: ใช้เบอร์ละเอียด (เช่น สีฟ้า) ขัดทำความสะอาดผิวที่หมองจากการเกิดออกซิเดชัน ให้กลับมาดูสว่างขึ้น
    • เตรียมผิวก่อนชุบอโนไดซ์ (Anodizing): ขัดผิวอลูมิเนียมให้เรียบเนียนและสะอาดก่อนส่งไปชุบสี
  • เหล็ก และ คาร์บอนสตีล (Carbon Steel)
    • ลบสนิมผิว (Surface Rust): ใช้เบอร์กลาง (สีแดง) หรือหยาบ (สีน้ำตาล) ขึ้นอยู่กับความหนาของสนิม
    • ลอกสีเก่า (Paint Stripping): ขัดเพื่อลอกสีเก่าก่อนทำสีใหม่ โดยไม่กินเนื้อเหล็ก
    • เตรียมผิวก่อนเชื่อม: ขัดบริเวณที่จะเชื่อมให้สะอาด
  • ทองเหลือง, ทองแดง (Brass & Copper):
    • ใช้เบอร์ละเอียดมาก (Very Fine) เพื่อขัดคราบหมอง (Tarnish) หรือคราบเขียว (Patina) โดยไม่ทำให้ผิวโลหะที่เป็นรอย

การใช้งานกับ “อโลหะ” (Non-Metals)

  • งานไม้ (Wood)
    • ลบเสี้ยนไม้ (Denibbing): หลังจากลงสีรองพื้น (Sealer) แล้ว มักจะมีเสี้ยนไม้เล็กๆ ยกตัวขึ้นมา การใช้กระดาษทรายอาจขัดแรงเกินไป ลูกขัดสก็อตไบรท์เบอร์ละเอียดมาก (เช่น สีเทาอ่อน) จะช่วยลบเสี้ยนเหล่านี้ได้อย่างนุ่มนวล ทำให้ผิวเรียบเนียนก่อนลงสีจริง
    • ขัดเก่า (Distressing): ใช้สร้างเอฟเฟกต์ให้ไม้ดูเก่าในงานเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ
  • พลาสติก และ คอมโพสิต (Plastics & Composites)
    • ลบครีบ: ใช้ลบครีบคมๆ ที่ขอบชิ้นงานพลาสติกหลังการฉีด (Injection Molding)
    • เตรียมผิว: ขัดผิวพลาสติกให้ “สาก” เล็กน้อย (Scuffing) ก่อนการพ่นสี เพื่อให้สียึดเกาะได้ดีขึ้น

เทคนิคการใช้งาน ลูกขัดสก็อตไบรท์ อย่างมืออาชีพ (How-To Guide)

การมี ลูกขัดสก็อตไบรท์ ที่ดีที่สุดจาก เคียมเฮง อยู่ในมือ แต่ใช้ไม่ถูกวิธี ก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ นี่คือเทคนิคที่ควรรู้

  1. การเลือกเครื่องขัดที่เหมาะสม (Choosing the Right Tool)
  • เครื่องเจียรลูกหมู (Angle Grinder) 4 นิ้ว: เป็นเครื่องมือที่คนไทยคุ้นเคยที่สุด ใช้ได้ แต่ “ต้องระวัง” เพราะเครื่องลูกหมูมาตรฐานมักมี “ความเร็วรอบสูงเกินไป” (มักจะ 10,000+ RPM) ซึ่งสูงเกินกว่าที่ลูกขัดสก็อตไบรท์ส่วนใหญ่จะรับได้
  • เครื่องขัดแบบปรับรอบได้ (Variable Speed Grinder/Polisher): นี่คือเครื่องมือที่ “ดีที่สุด” สำหรับงานนี้ เพราะคุณสามารถปรับความเร็วรอบ (RPM) ให้ช้าลงได้ตามที่ผู้ผลิตลูกขัดแนะนำ
  • เครื่องขัดสายพาน (Belt Sander): สำหรับลูกขัดสก็อตไบรท์แบบสายพาน
  • สว่าน (Drill): สำหรับลูกขัดสก็อตไบรท์แบบมีแกน (Shank Mounted) ใช้สำหรับงานเล็กๆ หรือในพื้นที่แคบ
  1. หัวใจสำคัญ: การตั้งค่าความเร็วรอบ (RPM)

นี่คือข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุด!

การใช้ ลูกขัดสก็อตไบรท์ ด้วยความเร็วรอบที่ “สูงเกินไป” จะไม่ทำให้งานเสร็จเร็วขึ้น แต่จะทำให้:

  1. เกิดความร้อนสูง (Overheating): ทำให้เส้นใยไนลอนละลายและอุดตัน (Glazing)
  2. ผิวงานไหม้ (Burning): โดยเฉพาะกับสแตนเลสหรือไม้
  3. ลูกขัดสึกหรอเร็วมาก: เส้นใยถูกทำลายอย่างรวดเร็ว

คำแนะนำ: ตรวจสอบ “Max RPM” ที่ระบุบนตัวลูกขัดเสมอ โดยทั่วไป ลูกขัดสก็อตไบรท์จะทำงานได้ดีที่สุดที่ความเร็วรอบ ปานกลางถึงต่ำ (ประมาณ 2,000 – 4,500 RPM) ซึ่งต่ำกว่าเครื่องลูกหมูทั่วไปมาก

  1. เทคนิคการเดินเครื่อง (Technique)
  • แรงกด (Pressure): “อย่ากดแรง!” (Let the tool do the work) ลูกขัดสก็อตไบรท์ทำงานโดยใช้เม็ดทรายที่ปลายเส้นใย การกดแรงๆ ไม่ได้ช่วยให้ขัดเร็วขึ้น แต่จะทำให้เส้นใยยุบตัวและเกิดความร้อนสูง ปล่อยให้ลูกขัด “ลูบ” ไปบนผิวงานด้วยแรงกดเบาถึงปานกลาง
  • ทิศทาง (Direction):
    • สำหรับการสร้างลายซาติน/แฮร์ไลน์: ต้องขัดไปใน “ทิศทางเดียว” (One Direction) เท่านั้น ห้ามขัดวนหรือขัดสะเปะสะปะ เพราะลายจะไม่สวยงาม
    • สำหรับการลบรอย/เตรียมผิว: สามารถขัดแบบไป-กลับ หรือขัดในมุมทแยงได้
  1. ความปลอดภัย (Safety First)
  • สวมแว่นตานิรภัย (Safety Glasses) เสมอ
  • สวมถุงมือป้องกันการบาดคม
  • สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น (Dust Mask) โดยเฉพาะเมื่อขัดไม้หรือวัสดุที่ก่อให้เกิดฝุ่นมาก

ปัญหาที่พบบ่อย (FAQ) และการแก้ไข

Q: ทำไมขัดแล้วลายไม่สม่ำเสมอ (Uneven Finish)?
A: มักเกิดจาก 1. แรงกดไม่สม่ำเสมอ (กดแรงไปบางจุด) 2. ขัดย้ำที่เดิมนานเกินไป 3. ขัดสวนทิศทางเดิม

Q: ทำไมลูกขัดหมดเร็วมาก (Rapid Wear)?
A: 90% เกิดจาก “ความเร็วรอบสูงเกินไป” หรือ “แรงกดมากเกินไป” ลองลดความเร็วรอบของเครื่องขัดลง

Q: ลูกขัดอุดตัน (Loading) หน้ามันเงา ขัดไม่เข้า ทำอย่างไร?
A: เกิดจากการใช้ความเร็วรอบสูงจนเส้นใยละลาย (Glazing) หรือใช้ขัดวัสดุที่นิ่มมาก (เช่น อลูมิเนียม) แล้วเศษโลหะเข้าไปอุดตัน แก้ไขโดยการ “ล้างหน้า” (Dressing) ลูกขัด โดยนำไปขัดกับขอบโลหะคมๆ หรือใช้แปรงลวดขัดเบาๆ (ขณะที่เครื่องหยุดหมุน) เพื่อเปิดหน้าเม็ดทรายใหม่

Q: ใช้ยาขัดเงา (Compound) ร่วมกับลูกขัดสก็อตไบรท์ได้หรือไม่?
A: “ได้ แต่ไม่จำเป็นในทุกกรณี” ลูกขัดสก็อตไบรท์ถูกออกแบบมาให้มีเม็ดทรายในตัวอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในงานขัดละเอียด (Very Fine) บางครั้งช่างอาจใช้ยาขัด (Bar Compound) ร่วมด้วยเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเงา (Luster) แต่หากต้องการขัดเงาเป็นกระจก ควรสลับไปใช้ลูกขัดผ้าและยาขัดโดยเฉพาะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *